วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

วิเคราะห์บอล แชมเปี้ยนส์ลีกทุกคู่ บาเยิร์น , ยูเว่ฯ , ซิตี้เข้าวิน

วิเคราะห์บอลวันนี้  ให้สกอร์แม่นๆ แบบฉบับเซียนบอลมาเอง กับการวิเคราะห์บอล คู่ต่อคู่ที่พิสูจน์ความแม่นมานักต่อนักแล้ว วิเคราะห์บอล แบบลงลึกรายละเอียดทั้ง ตารางบอล ราคาบอล เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แฟนบอลกับ ทีเด็ดบอลวันนี้ ทุกคู่ วางใจให้เราเป็น บ้านผลบอล ของคุณนะครับ

วิเคราะห์บอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (UEFA Champions League)
วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2556 (27 November 2013)



ซีเอสเคเอ มอสโก - บาเยิร์น มิวนิค (CSKA Moscow Vs Bayern Munich)
เวลา 00.00 น.

วิเคราะห์บอล - บาเยิร์นฟอร์มคงเส้นคงวามาตลอด งานนี้จะยากอะไร แม้จะมาเยือนแต่แนวรับเจ้าถิ่นเอาไม่อยู่หรอก แต่อาจจะเฉือนแค่ไม่กี่ประตูเท่านั้น
ผลบอลที่คาด - ซีเอสเคเอ 1-2 บาเยิร์น มิวนิค


เปแอสเช - โอลิมเปียกอส (PSG Vs Olympiacos)
เวลา 02.45 น.

วิเคราะห์บอล - ปารีส เล่นในบ้าน 5 เกมหลังสุดชนะ 4 เสมอ 1 ในทุกรายการ เกมนี้น่าจะเปิดฉากบุกตะลุยเข้าใส่แบบเต็มสตรีมแน่ และคงเอาชนะไปได้แบบไม่ยากเย็นเท่าไหร่
ผลบอลที่คาด - ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 3-1 โอลิมเปียกอส

แก้ปัญหาชอบหมกมุ่นเรื่องงาน

๑. พิจารณาว่าคนเราทำงานไปเพื่ออะไร ทำงานเพราะว่างานเป็นสิ่งสำคัญที่สุดหรือเปล่า
ซึ่งหากจะถามว่าคนเราทำงานไปเพื่ออะไร ส่วนใหญ่คงจะตอบว่าเพื่อหารายได้มาดำรงชีพ
(
สำหรับส่วนน้อย ซึ่งอาจจะมีเหตุผลอื่นที่หลากหลายนั้น ขอละไว้ไม่กล่าวถึงในที่นี้)
ในเมื่อเราทำงานเพื่อหารายได้มาดำรงชีพ (เช่น เลี้ยงตนเอง และครอบครัว) แล้ว
ก็ย่อมแสดงในตัวว่าการทำงานเพื่อหารายได้นั้น ยังเป็นงานรองอยู่ ไม่ใช่งานหลัก
เพราะการทำงานยังเป็นไปเพื่อหารายได้มาสนับสนุนการดำรงชีพในเรื่องอื่น ๆ

หากสมมุติว่าเราทำงานในที่ทำงานแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เพื่อการกุศล และไม่ใช่การฝึกงาน
แต่เป็นการทำงานจริง ๆ โดยที่เราทำงานดังกล่าวเพื่อต้องการหารายได้
แต่ปรากฏว่านายจ้างบอกว่าจะไม่จ่ายค่าตอบแทน และไม่ให้อะไรเป็นค่าตอบแทนทั้งสิ้น
คือให้เราทำให้ฟรี ๆ ไปตลอด ถามว่าเราจะทำงานนั้นไหม ซึ่งเราก็คงตอบว่า ไม่ทำ
นั่นก็แสดงให้เห็นว่าลำพังการทำงานเองนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด

(ในอีกมุมหนึ่งนะครับ ค่าตอบแทนในการทำงานก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดเช่นกัน
หากสมมุติว่ามีคนมาชวนเราไปทำงานที่อื่น โดยขึ้นอัตราค่าตอบแทนให้อีกหลายเท่า
แต่ว่าหากเราไปทำแล้ว เราจะต้องตายภายในไม่กี่วันอย่างแน่นอน
หรือเราจะต้องจากครอบครัวหรือจากคนที่เรารักไปตลอดชีวิต เราเองก็คงไม่ทำเช่นกัน)

หากท่านไหนยังมีความเห็นว่าการทำงานนั้นสำคัญที่สุดในชีวิต
ก็แนะนำให้ลองสมมุตินะครับว่า ถ้าเราทราบว่าเราจะตายในคืนนี้วันนี้แล้ว
เราลองถามตัวเองสิว่า เรายังจะใช้เวลาในวันนี้ทั้งวันเพื่อทำงานอยู่ไหม
เราจะใช้เวลาชีวิตที่เหลือทั้งหมดก่อนตายในวันนี้เพื่อทำงานหรือเปล่า

เมื่อการทำงานนั้นยังไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด แต่เป็นเพียงงานรองดังที่กล่าวแล้ว
การที่เราจะมัวมุ่งทำแต่งานรอง โดยไม่ได้แบ่งเวลาชีวิตไปทำงานหลักนั้น
ย่อมจะเป็นการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ควรทำอย่างไม่เหมาะสม
และไม่เป็นประโยชน์แก่ตนเอง แก่ครอบครัว และแก่ส่วนรวม

กรณีอาจจะมีปัญหาต่อมา คือว่าแล้วอะไรล่ะเป็นงานหลักของชีวิต
ปัญหานี้คงต้องคุยกันยาวนะครับ และแต่ละคนก็ย่อมมีจริตและเป้าหมายที่แตกต่างกัน
ซึ่งเนื้อที่ในบทความนี้ไม่พอและจะเป็นการลากประเด็นของบทความครับ
จึงขอแนะนำให้เราไปพิจารณากันเองก่อนนะครับว่า “อะไรคืองานหลักของชีวิตเรา”
(โดยขอยกไปไว้คุยกันในคราวต่อ ๆ ไปเมื่อมีโอกาสครับ)


๒. พิจารณาว่า “คนเราทำงานเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อทำให้ชีวิตเราแย่ลง
หากเราทำงานแล้ว ทำให้ชีวิตเราแย่ลง ก็ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม”
สำหรับสองประโยคข้างต้นนี้ ขอยกตัวอย่างในชีวิตจริงของผมมาเล่านะครับ
เคยมีรุ่นพี่ท่านหนึ่งสอนสองประโยคนี้แก่ผมตั้งแต่สองปีแรกที่ผมเริ่มทำงานแล้วนะครับ
ก็คือเมื่อประมาณสิบแปดปีก่อนโน้น ซึ่งผมเองได้ทำงานหนักมาก ๆ และเยอะมาก
ทำแบบไม่ลืมหูลืมตา ประเภททำเจ็ดวัน วันละสิบกว่าชั่วโมงตลอด
และทำแบบไม่กลับบ้าน โดยนั่งหลับค้างคืนคาโต๊ะทำงานอยู่เป็นประจำ
ทำงานจนไม่มีเวลาให้พ่อแม่ ไม่มีเวลาให้แฟน ทำงานจนกระทั่งแฟนเลิกกับผมเลย
(ก็เพราะมัวแต่ทำงานนี่แหละ) ผมฟังรุ่นพี่คนนั้นสอนผมแล้ว ผมก็ยังไม่
get นะครับ

แต่เมื่อเวลาผ่านไปอีกสองปีกว่า โดยที่ผมก็ทำงานหนักเช่นเดิมอย่างนั้นมาตลอด
อยู่มาคืนหนึ่งซึ่งเป็นกลางดึกของวันอาทิตย์ ซึ่งผมยังทำงานอยู่ในที่ทำงานคนเดียว
ผมมองไปรอบ ๆ ที่ทำงานแล้ว เห็นว่ากำลังอยู่ในที่ทำงานคนเดียวในคืนวันอาทิตย์
แล้วจู่ ๆ สองประโยคที่รุ่นพี่เคยสอนผมก็ย้อนเข้ามาในสมอง
ผมไล่เรียงนึกย้อนไปกับชีวิตที่ผ่านมา จึงได้
get ว่าหมายความว่าอย่างไร

คนเราก็มีอย่างนี้ในชีวิตนะครับที่ว่า ได้ยินคำสอนหรือคำแนะนำอะไรดี ๆ แล้ว
แต่ไม่สามารถที่จะเข้าใจอย่างถ่องแท้ หรือเข้าถึงได้
โดยจะต้องให้เวลาผ่านไปจนกระทั่งตกผลึกเสียก่อน
หรือบางทีอาจจะต้องให้เดือดร้อนเสียก่อน (ประเภทไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา)
จึงจะสามารถเข้าใจหรือเข้าถึงคำสอนหรือคำแนะนำนั้น ๆ ได้
ทั้ง ๆ ที่เรื่องบางเรื่องนั้น เราสมควรที่จะเข้าใจได้ในวาระแรกแล้ว
แต่กลับไม่เข้าใจ และก็ต้องรอจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายแล้ว จึงเพิ่งจะเข้าใจได้
(ซึ่งเมื่อเข้าใจในเวลานั้นแล้ว ก็อาจจะไม่เหลือเวลาพอที่จะ “แก้ตัวหรือกลับตัว” แล้ว
แต่ไม่ว่าจะเหลือเวลาน้อยเพียงไรก็ตาม ก็ย่อมจะเพียงพอที่เราจะ “กลับใจ” นะครับ)

ถ้าจะยกตัวอย่างกรณีเราทำงานแล้วทำให้ชีวิตเราแย่ลง ให้พิจารณาอีก ก็เช่นว่า
ทำงานอย่างหนักจนกระทั่งเราเองเจ็บป่วยหนัก เป็นโรคร้าย
และกลับกลายเป็นว่าเราเองต้องมาเป็นภาระให้คนในครอบครัวต้องดูแล
หรือว่าเราทำงานหนักจนกระทั่งเครียดมากและพาลทะเลาะกับคนในครอบครัว
ทำให้คนในครอบครัวเราทุกข์ใจและไม่มีความสุข
ทั้งนี้ เราอาจจะทำงานหนักก็เพื่อต้องการให้คนในครอบครัวมีความสุข
แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับสวนทางกับวัตถุประสงค์ เป็นต้น

ตัวอย่างที่เจอบ่อยคือพ่อแม่ทำงานหนักมาก เพราะต้องการหารายได้มาเลี้ยงดูลูก
เพื่อที่จะให้ลูกได้มีอนาคตที่ดี และเป็นคนดี แต่ด้วยความที่พ่อแม่ทำงานหนักมาก
ไม่มีเวลาให้กับลูก ไม่มีเวลาสอน และไม่มีเวลาดูแลลูก ก็กลายเป็นว่า
ลูกไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนและดูแลที่ดี จึงกลายเป็นคนไม่ดี และเสียอนาคตไปเลยก็มี
เรื่องทำนองนี้ก็แสดงให้เห็นว่าผลลัพธ์ที่ได้กลับสวนทางกับวัตถุประสงค์ที่วางไว้


๓. พิจารณาว่า เราเป็นเจ้าของกิจการ หรือตกเป็นทาสของกิจการ
เราเป็นนายของการงาน หรือเป็นทาสของการงาน
เราเป็นนายของทรัพย์สิน หรือเป็นทาสของทรัพย์สิน
หากเราเองจะต้องทุ่มทั้งชีวิตเพื่อทำงาน เพื่อหารายได้ หรือเพื่อสะสมทรัพย์สิน
โดยไม่มีเวลาไปทำประโยชน์ส่วนตัว (เพื่อตนเอง ครอบครัว และส่วนรวม)
ไม่มีเวลาพักผ่อนส่วนตัว ... เวลาแม้เล็กน้อยที่เรามีก็ต้องใช้ไปเพื่อการทำงาน
เช่นนั้นแล้ว ก็ควรพิจารณาว่า เราเองเป็นนาย เป็นเจ้าของ หรือว่าเราเป็นทาสกันแน่

สมมุติว่าเราทำงานสะสมเงินทองได้มากมาย ได้มาเป็นร้อยล้านพันล้าน
แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ประโยชน์จากเงินนั้นเลย
เงินนั้นกองอยู่ในบัญชี ให้เราได้เห็นเพียงตัวเลข โดยมีตัวเลขมากมาย
ส่วนเราเองต้องอยู่กับงานตลอด ไม่มีเวลาพักผ่อน ไม่มีเวลาส่วนตัว ไม่มีวันหยุด
ถึงวันหนึ่งเราก็ป่วย แล้วก็ตายจากไป ... สำหรับเงินในบัญชีนั้น เราไม่มีเวลาจะใช้
หลังจากที่เราตายแล้ว ทายาทเราหรือคนอื่น ๆ ก็ได้นำเงินนั้นไปใช้
ซึ่งเราก็ไม่สามารถจะทราบล่วงหน้าได้เลยว่าเขาจะใช้อย่างไร ใช้เพื่ออะไร
หรือจะนำไปละลายทิ้งอย่างไร้ประโยชน์หรือไม่
เช่นนี้แล้ว เงินทองเหล่านั้นย่อมไม่มีประโยชน์เท่าที่ควร
(โดยเราทำตัวเองเสมือนเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ให้คนอื่นเสียมากกว่า)


๔. พิจารณาว่า คนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อมีหน้าที่เพียงทำงานอย่างเดียว
แต่ชีวิตคนเรานั้นจะต้องทำชีวิตส่วนตัวในเรื่องอื่น ๆ ให้ดีด้วย
โดยควรจะต้องจัดสรรแบ่งเวลาให้เหมาะสมระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว
หากใช้เวลาไปในด้านการทำงานมากจนเกินไป ชีวิตส่วนตัวก็จะเสียหาย
เมื่อชีวิตส่วนตัวเสียหายแล้ว ก็ย่อมจะส่งผลกระทบกับการทำงานอยู่ดี
เช่น สมมุติว่าเราทำงานหนักมากจนเราป่วยเป็นมะเร็งระยะร้ายแรง
การที่เราป่วยเป็นมะเร็งระยะร้ายแรงก็ย่อมกลับไปกระทบการทำงานของเราอยู่ดี

ในทางกลับกัน หากใช้เวลาไปทางชีวิตส่วนตัวมากจนเกินแล้ว การงานก็จะเสียหาย
เมื่อการงานเสียหายแล้ว ก็ย่อมจะส่งผลกระทบกับชีวิตส่วนตัวอยู่ดี
เช่น สมมุติว่าเราละเลยไม่ใส่ใจทำงานจนกระทั่งโดนให้ออกจากงานและขาดรายได้
หรือโดนย้ายไปทำงานในสถานที่ไกลบ้านมาก ๆ ก็ย่อมจะกระทบกับชีวิตส่วนตัวได้

ลองเปรียบเทียบว่า เราต้องการอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายในแต่ละวัน
หากเราใช้เวลาทั้งหมดไปเพื่อการอาบน้ำถูสบู่อย่างเดียว ถูเยอะมากเลย ถู ๆ ๆ ๆ
เราใช้เวลาทั้งหมดไปเพื่ออาบน้ำถูสบู่เพื่อความสะอาดร่างกาย
แต่เราไม่แปรงฟัน ไม่สระผม ไม่ซักเสื้อผ้าที่จะใส่ ... เสื้อผ้าที่จะใส่นั้นสกปรกมีกลิ่นเหม็น
ถามว่าเราจะได้ประโยชน์เต็มที่จากการที่เราอาบน้ำถูสบู่นั้นหรือไม่ ก็คงต้องตอบว่า “ไม่”
เพราะว่าเมื่ออาบน้ำและแต่งตัวเสร็จแล้ว ก็ยังสกปรกอยู่ดี และมีกลิ่นเหม็นด้วย
ในทางกลับกัน หากเราจะซักเสื้อผ้าให้สะอาด แปรงฟัน และสระผมแล้ว
แต่เราไม่อาบน้ำและไม่ถูสบู่ ก็ย่อมจะไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควรที่เช่นกัน
การที่เรามุ่งทำงานอย่างเดียว โดยละเลยชีวิตส่วนตัว ก็ทำนองเดียวกันครับ


๕. พิจารณาว่า คนเราสมควรต้องรู้จักพัฒนาชีวิตตนเองให้ดีขึ้น
ยกตัวอย่างว่า ชายคนที่หนึ่งเดินออกจากบ้าน โดยถือท่อนไม้ติดตัวไปด้วย
เดินไปได้วันหนึ่ง ก็พบถาดทองเหลือง เขาก็วางท่อนไม้ลง และถือถาดทองเหลืองนั้น
เดินต่อไปอีกวันหนึ่ง ก็พบถาดทองคำ เขาก็วางถาดทองเหลือง และถือถาดทองคำนั้น
ชายคนที่หนึ่งกลับมาที่บ้านพร้อมกับทองคำนั้น

ชายคนที่สองเดินออกจากบ้าน โดยถือท่อนไม้ติดตัวไปด้วยเช่นกัน
และเขาก็ได้พบถาดทองเหลือง และถาดทองคำเช่นเดียวกันกับชายคนที่หนึ่ง
แต่เขาไม่ยอมวางท่อนไม้ เพราะเห็นว่าท่อนไม้เป็นสิ่งสำคัญที่เขาได้ถือไว้นานแล้ว
เขาอุตส่าห์เหนื่อยยากถือมาตั้งนาน ชายคนที่สองจึงกลับมาที่บ้านพร้อมกับท่อนไม้นั้น

เราลองพิจารณาว่าชายคนที่หนึ่ง หรือชายคนที่สองได้กระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์
แก่ตนเอง และครอบครัวมากกว่ากัน และชายคนใดควรได้รับการชมเชย
ในทำนองเดียวกัน ชีวิตของเราก็ได้พบผ่านสิ่งต่าง ๆ มามากมาย
เราก็ควรต้องพิจารณาพัฒนาตนเองไป เพื่อให้ชีวิตเรานี้มีคุณค่ามากที่สุด
ในสมัยเด็ก ๆ เราอาจจะมองว่าการเล่นสนุกสนานนั้นสำคัญและมีคุณค่าที่สุด
แต่พอโตและเรียนจบแล้ว เราอาจจะมองว่าการทำงานสำคัญและมีคุณค่าที่สุด
เมื่อเวลาผ่านไปอีก เราก็ควรจะลองถามตัวเองบ้างว่า
มีอะไรในชีวิตที่มีคุณค่าและสำคัญกว่าการทำงานไหม
เราได้วางท่องไม้ไป และถือถาดทองเหลืองแล้ว เราได้พบสิ่งอื่นที่มีคุณค่ากว่านั้นไหม


๖. พิจารณาว่า หากสิ่งที่เราทำอยู่ในชีวิตทุกวันนี้ดีอยู่แล้ว หรือดีที่สุดอยู่แล้ว
โดยไม่ได้มีอะไรบกพร่องอะไรเลย ชีวิตเราก็ย่อมจะต้องมีความสุขมากมายนะครับ
จึงควรลองถามตัวเองว่า ชีวิตเราเอง มีความสุขมากมายหรือเปล่า
เราพอใจในการใช้เวลาทำงานเยอะ ๆ โดยไม่มีเวลาส่วนตัวเลย
ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันหรือไม่ หากตอบว่า
ไม่พอใจ
เรารู้สึกว่าตนเองเป็นทาสของกิจการ เป็นทาสของงาน เป็นทาสของทรัพย์สินแล้ว
แสดงว่าต้องมีข้อบกพร่องบางอย่างอยู่ จึงควรที่จะต้องค้นหาข้อบกพร่องนั้น
เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงชีวิตเราให้ดีขึ้นต่อไป


๗. พิจารณาว่า คนเราต้องรู้จักแบ่งเวลาว่าเวลาไหนควรทำอะไรและไม่ควรทำอะไร
ไม่ใช่ว่าเวลาที่เรากินข้าว ก็เล่นเกมไปด้วย หรือคุยโทรศัพท์ไปด้วย
เวลาอาบน้ำ ก็คุยโทรศัพท์ไปด้วย ดูโทรทัศน์ไปด้วย หรือเช็คอีเมล์ไปด้วย
เวลาขับรถ ก็ดูโทรทัศน์ไปด้วย หรืออ่านเช็คอีเมล์ไปด้วย หรือคุยโทรศัพท์ไปด้วย
เวลาทานข้าวอยู่กับแฟน ก็ทำงานไปด้วย หรือคุยโทรศัพท์กับเพื่อน ๆ ไปด้วย
พอเวลาทำงาน ก็มัวแต่คุยโทรศัพท์เล่นกับเพื่อน มัวนอน เล่นอินเตอร์เน็ต
หรือทำเรื่องไร้สาระอื่น ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานเลย

ลองพิจารณาดูนะครับว่าจะดีหรือแย่อย่างไร หรือเหมาะสมไหม
หากในช่วงเวลาที่คนในครอบครัวกำลังกินข้าวด้วยกันนั้น
พ่อก็โทรศัพท์คุยเรื่องงาน แม่ก็ดูละครโทรทัศน์เรื่องที่ตนเองติด
ลูกคนโตเล่นอินเตอร์เน็ตโดยโทรศัพท์มือถือ ส่วนลูกคนเล็กเล่นเกมออนไลน์ในคอมพิวเตอร์
แล้วจะเรียกว่าเป็นการกินข้าวระหว่างคนในครอบครัวได้ไหม

ในทำนองเดียวกัน หากเรากำลังกินข้าวกับคนในครอบครัว
แต่จิตใจกลับไปหมกมุ่นคิดแต่เรื่องงาน เช่น คิดถึงลูกน้องที่ไม่ทำงาน หรือทำงานไม่ได้เรื่อง
คิดถึงเพื่อนร่วมงานที่เห็นแก่ตัว หรือเจ้านายที่นิสัยไม่ดี เอาแต่ดุด่าไม่ฟังเหตุผล
ก็ย่อมจะไม่เป็นประโยชน์ใด ๆ กับการกินข้าวกับคนในครอบครัวนั้น


๘. พิจารณาว่า งานที่เราทำนี้มีวันหมดหรือไม่
หากเราทำงานอยู่ในแผนกหรือฝ่ายที่มีพนักงานจำนวนมาก
ลองพิจารณานะครับว่าเราคนเดียวจะทำงานแทนคนทั้งหมดในแผนกหรือในฝ่ายได้ไหม
ยิ่งหากอยู่องค์กรใหญ่ ๆ แล้ว คงจะเห็นได้ว่าทำงานให้ตายก็ตาม งานก็ไม่มีวันหมด
(เว้นแต่องค์กรนั้นกำลังจะเจ๊ง หรือเลิก หรือล้มละลาย)
เราทำงานหนักมากเลยในสัปดาห์นี้ พอถึงสัปดาห์หน้างานใหม่ก็เข้ามาอีกแล้ว
โดยงานได้ไหลเข้ามาเรื่อย ๆ ไม่มีวันหมด อย่างไรก็ดี แม้ว่างานอาจจะไม่มีวันหมด
แต่ว่าเวลาชีวิตของเรามีวันหมดนะครับ จึงควรจัดสรรเวลาชีวิตให้เหมาะสม


๙. พิจารณาว่า เราไม่จำเป็นที่จะต้องทำงานคนเดียว หรือแบกทุกอย่างไว้คนเดียว
ลองพิจารณาว่าเราให้ความสำคัญกับตนเองมากเกินไปหรือเปล่า
หากเราตาย หรือเราไม่อยู่แล้ว บริษัทจะต้องเจ๊งหรือเปล่า ทุกคนจะทำงานไม่ได้หรือไง
โดยให้มองคนอื่นด้วยใจที่เปิดกว้างและยอมรับด้วยว่า
เราไม่ได้เก่งที่สุดคนเดียว เราไม่ได้ทำงานได้คนเดียว คนอื่น ๆ ที่มีศักยภาพก็มี
ทำอย่างไรเราจึงจะกระจายงานให้คนอื่น ๆ ได้ช่วยกันทำอย่างเหมาะสม


๑๐. พิจารณาว่าคนเราจะตายวันไหน เวลาไหน ก็ไม่ทราบได้
ลองถามตัวเองว่า เราได้ทำทุกอย่างไว้สมบูรณ์แล้วหรือยัง
เราได้ทำสิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับชีวิตเรียบร้อยดีแล้วหรือเปล่า
ได้ให้เวลากับครอบครัว กับคนที่เรารัก และกับตนเอง อย่างเหมาะสมไหม
หากวันดีคืนดี เราเกิดตายอย่างกะทันหัน หรือป่วยหนักทำอะไรไม่ได้แล้ว
ก็เท่ากับว่าเราไม่มีโอกาสที่จะได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่ควรจะต้องทำ
โดยเราได้ปล่อยเวลาและโอกาสให้ผ่านเลยไปอย่างน่าเสียดาย


นอกจากนี้ กรณีอาจจะไม่ใช่ว่าเราตายอย่างกะทันหัน แต่อาจจะเป็นไปได้ว่า
คนที่เรารัก คนในครอบครัวเรา หรือคนที่เกี่ยวข้องกับเราได้ตายลงอย่างกะทันหันก็ได้

นอกจากจะแนะนำให้พิจารณาดังที่กล่าวข้างต้นแล้ว ขอแนะนำให้ทำดังต่อไปนี้ด้วยครับ
(๑) แม้ว่าจะบอกให้แบ่งเวลาชีวิตสนใจสิ่งสำคัญอื่น ๆ แต่การทำงานนั้นก็สำคัญ
เราจึงควรต้องใช้เวลาหาข้อบกพร่องในงานที่ทำด้วยว่า จะสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้ไหม
ไม่ควรคิดว่าเราทำทุกอย่างดีหมดอยู่แล้ว เพราะหากระบบงานทุกอย่างดีหมดแล้ว
การทำงานควรต้องสบาย งานเสร็จเร็ว และเรามีเวลาส่วนตัวเยอะ ๆ
แต่หากตรงกันข้ามว่า งานเราทำไม่ทันเลย เวลาส่วนตัวไม่มีเลย และเรากลุ้มหรือกังวล
เช่นนี้แล้วก็ควรจะพิจารณาการทำงานใหม่ทั้งหมดครับว่าปัญหาอยู่ตรงไหน
และควรจะแก้ไข ปรับปรุง หรือพัฒนาอะไรได้บ้างไหม

บางที เราต้องลองมองสวนกระแส หรือมองออกนอกกรอบเดิม ๆ บ้าง
มีงานบางอย่างที่ไม่จำเป็นต้องทำไหม มีวิธีการบางอย่างที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ไหม
มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์อะไรที่จะช่วยให้ทำงานโดยใช้เวลาน้อยลงกว่านี้ไหม
เราสร้างหรือใช้ระบบงานบางอย่างที่ซับซ้อนมากเกินไปหรือเปล่า
เราเก็บหรือกั๊กงานมาทำเองมากเกินไปหรือไม่ เราไม่ไว้ใจคนอื่น ๆ เลยหรือเปล่า
ทั้งที่ก็น่าจะสามารถแบ่งงานให้คนอื่นทำได้ แต่เราไม่แบ่งให้ ฯลฯ

ในชีวิตจริงนั้น ตัวเราเองก็มีแต่จะอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำงานได้ช้าลง
การที่จะลุยทำงานหนักไปเรื่อย ๆ นั้น คงจะไม่สามารถทำไปได้ตลอด
จึงควรต้องพิจารณาระบบการทำงานเผื่ออนาคตด้วย

ทั้งนี้ ผมไม่ได้บอกให้ทิ้งงานทั้งหมดเพื่อไปทำอย่างอื่นนะครับ
แต่แนะนำให้มาพิจารณาจัดลำดับสิ่งสำคัญในชีวิตใหม่ทั้งหมด
เรียงใหม่หมดเลย จากนั้นแล้ว แบ่งเวลาให้การทำงานว่าจะแบ่งเท่าไร
จากนั้น ในเวลาที่เราได้แบ่งให้กับการทำงานนั้น เราต้องมาพิจารณาอีกว่า
ในเมื่อเวลาเราลดลง เราควรจะต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง เพื่อที่จะให้ไม่ให้กระทบงาน
หรือหากจะต้องกระทบงาน ก็ให้กระทบให้น้อยที่สุด


(๒) ในเวลาชีวิตส่วนตัวของเรานั้น เป็นไปได้ว่าเราอาจจะเผลอไปหลงคิดกังวลเรื่องงาน
ดังนั้นแล้ว ก็แนะนำให้เราหัดมีสติรู้ทันใจตนเอง
โดยตั้งหลักก่อนว่า เราต้องแบ่งเวลางานและเวลาส่วนตัวออกจากกัน
หากเราอยู่ในเวลางาน และใจหลงไปคิดเรื่องส่วนตัว ให้มีสติรู้ทัน
หากเราอยู่ในเวลาส่วนตัว และใจหลงไปคิดกังวลเรื่องงาน ให้มีสติรู้ทัน
โดยไม่ปล่อยให้ความหลงดังกล่าวมาครอบงำใจ


แม้ว่าที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นจะคุยเกี่ยวกับการหมกมุ่นเกี่ยวกับการทำงานก็ตาม
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ข้อแนะนำก็สามารถนำไปปรับใช้กับการหมกมุ่นเรื่องอื่น ๆ ได้
โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นการหมกมุ่นเกี่ยวกับการทำงานเท่านั้น
เช่น หมกมุ่นเรื่องแฟน เล่นเกม ดูละคร อ่านนิยาย เที่ยวกลางคืน เล่นอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
ก็สามารถนำไปพิจารณาปรับใช้ได้ตามที่เหมาะสม
เพื่อที่เราจะได้ใช้เวลาชีวิตส่วนตัวไปทำสิ่งที่สำคัญและมีคุณค่ากับชีวิตเราอย่างแท้จริงได้

การแก้ปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้

๑. โครงการป้องกันปัญหา
โครงการนี้จะต้องจัดทำอย่างจริงจังและถูกต้องเพื่อป้องกันปัญหาแบบยั่งยืนที่ชั้น อนุบาล และชั้น ป.๑ นั่นก็คือ
(๑) จัดกิจกรรมการเรียนการสอนระดับอนุบาลด้วยการเตรียมความพร้อมด้านทักษะภาษาก่อนขึ้น ป.๑ ดังนี้
-เปล่งคำและเปล่งเสียงพูดชัดเจนทุกเสียงอักขระในถ้อยคำต่างๆ ไม่น้อยกว่าระดับชั้นอนุบาลละ ๕,๐๐๐ คำ
(รวมทั้งเปล่งเสียงท่องบทอาขยาน ร้องเพลง และพูดสื่อสารถามตอบได้ชัดเจนตามเสียงอักขระและเสียงคำควบกล้ำ, ฟังนิทาน เรื่องเล่า และพูดถามตอบได้ชัดเจนตามเสียงอักขระและเสียงคำควบกล้ำ)
-เปล่งเสียงท่องพยัญชนะ ก - ฮ และสระทั้ง ๓๒ สระ ได้ถูกฐานเสียงจนเกิดทักษะจดจำได้
-มีพัฒนาการการจับดินสอ ปรับระยะสายตา เขียนเส้นลีลาต่างๆ และวาดรูปอย่างมีทักษะทิศทางเส้นสมบูรณ์ก่อนการเขียนตัวอักษร
-สามารถเขียนพยัญชนะ ก - ฮ สระทั้ง ๓๒ สระ วรรณยุกต์ทั้ง ๔ รูป และตัวเลข ๐-๙
ฝึกเตรียมทักษะด้านภาษาเพียงเท่านี้ให้ได้อย่างครบถ้วนแท้จริง โดยไม่ต้องฝึกอ่านและเขียนคำ เพราะขั้นตอนการฝึกอ่านและเขียนคำเป็นหน้าที่ของครู ป.๑ การเร่งฝึกอ่านเขียนก่อนวัยอันสมควร จะเป็นโทษแก่เด็กมากกว่าเป็นผลดี ซ้ำยังทำให้ครูอนุบาลไม่มีเวลาฝึกเตรียมทักษะพื้นฐานข้างต้นให้สมบูรณ์เพียง พออีกด้วย
(๒) จัดการเรียนการสอนภาษาไทย ป.๑ เพื่อการอ่านออกเขียนได้อย่างมีมาตรฐาน ดังนี้
-ครูจัดทำชาร์ตแบบฝึกอ่านเขียนที่ถูกต้องและมีมาตรฐานตามหนังสือ เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แก้ง่ายนิดเดียว ของ ผศ.ศิวกานท์ ปทุมสูติ บทที่ ๓-๖
-ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบบันไดทักษะ ๔ ขั้นวันละ ๒ ชั่วโมง
-นักเรียนมี “สมุดคัดลายมือ” ที่แสดงผลการเรียนต่อเนื่อง
-นักเรียนมี “สมุดเขียนตามคำบอก” ที่แสดงผลการเรียนต่อเนื่องอย่างสอดคล้องกับสมุดคัดลายมือ และแสดงผลการแก้ไขปรับปรุงอย่างมีพัฒนาการ
-ครูมีบัญชีแสดงการมาเรียนของนักเรียน
-เมื่อสอนครบเนื้อหาหลักสูตรได้มีการทดสอบ “เขียนตามคำบอก” ด้วยคำมาตรฐาน ๕๐ คำและแสดงหลักฐานได้อย่างเป็นระบบที่ง่ายต่อการตรวจสอบ

๒. โครงการเฉพาะกิจแก้ปัญหาเร่งด่วนที่ชั้น ป.๒ ขึ้นไป
เนื่องจากเด็กที่เลื่อนชั้นจาก ป.๑ มาอยู่ในชั้นเรียนต่างๆ ขณะนี้จำนวนมากยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ จึงจำเป็นต้องจัดทำโครงการแก้ปัญหาเฉพาะกิจเร่งด่วน ดังนี้
(๑) สำรวจสภาพปัญหาด้วยการให้เด็กชั้น ป.๒ ขึ้นไปเขียนตามคำบอกจากคำทดสอบ ๕๐ คำ โดยที่คำทดสอบนี้มีมาตรฐานพื้นทักษะระดับชั้น ป.๑ ซึ่งมีค่าความยากง่ายเฉลี่ยองค์ประกอบของคำครอบคลุม
-คำที่มีพยัญชนะต้นอักษรสามหมู่
-คำที่สะกดตรงมาตราทั้ง ๙ แม่
-คำที่ประสมสระไม่น้อยกว่า ๒๐ สระขึ้นไป
-คำควบกล้ำและคำอักษรนำ
-คำผันเสียงวรรณยุกต์ทั้งสามหมู่อักษร
ชุดคำทดสอบ ๕๐ คำ มีให้เลือกในหนังสือ เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แก้ง่ายนิดเดียว ของ ผศ.ศิวกานท์ ปทุมสูติ จำนวน ๒ ชุด อาจออกคำทดสอบเพิ่มเติมจากหลักการมาตรฐานดังกล่าวได้อีกตามที่เห็นเหมาะสม
นักเรียนที่ได้คะแนนไม่ถึง ๒๕ คะแนนให้คัดจำแนกเด็กเป็นกลุ่มๆ เข้าสู่โครงการแก้ปัญหา
(๒) จำแนกเด็กเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละไม่เกิน ๒๐ คน โดยพิจารณาให้เด็กเรียนช้าอยู่กับช้า เด็กเรียนเร็วอยู่กับเร็ว รวมทั้งดูวัยให้ใกล้เคียงกัน และดูคะแนนความสามารถที่ใกล้เคียงกันให้อยู่กลุ่มเดียวกันด้วย
(๓) จัดให้มีครูอาสาเป็นผู้รับผิดชอบจัดการเรียนการสอนเพื่อการแก้ปัญหาเป็นการ เฉพาะ ครูอาสาคนหนึ่งจะรับผิดชอบเด็กได้ไม่เกิน ๔ กลุ่ม หรือไม่เกิน ๘๐ คน
(๔) ครูอาสาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มละ ๑ ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้น ถ้ามีเด็ก ๔ กลุ่มก็จะต้องสอนวันละ ๔ รอบ รอบละ ๑ กลุ่มต่อ ๑ ชั่วโมง ดังนั้น ครูอาสาที่รับผิดชอบสอนวันละ ๔ กลุ่ม ควรจะต้องว่างจากภารกิจอื่นอย่างสิ้นเชิง เพื่อจะได้ทุ่มเทเวลาเพื่อกิจกรรมการสอนแก้ปัญหาอย่างแท้จริง
(๕) ครูอาสาเขียนชาร์ตประกอบการสอนตามแบบฝึกในหนังสือ เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แก้ง่ายนิดเดียว ของ ผศ.ศิวกานท์ ปทุมสูติ ตั้งแต่บทที่ ๓ ถึงบทที่ ๖ และดำเนินการสอนไปตามลำดับเนื้อหาอย่างครบถ้วน โดยใช้กิจกรรมการสอนแบบบันไดทักษะ ๔ ขั้นทุกชั่วโมง คือ
ขั้นที่หนึ่ง แจกลูก ให้ผูกจำ
ขั้นที่สอง อ่านคำ ย้ำวิถี
ขั้นที่สาม คัดลายมือ ซ้ำอีกที
ขั้นที่สี่ เขียนคำบอก ทุกชั่วโมง
(๖) ครูอาสาดำเนินการสอนแก้ปัญหาไปจนครบถ้วนเนื้อหาเป็นเวลาไม่น้อยกว่ากลุ่มละ ๙๐ ชั่วโมง หรือไม่น้อยกว่า ๔ เดือน หรืออาจเกินกว่าเวลาที่กำหนดนี้ก็ได้ ทั้งนี้ให้ถือเอาความมีสัมฤทธิผลของทักษะของเด็กแต่ละกลุ่มและแต่ละคนเป็น สำคัญ
(๗) เมื่อสอนครบตามเนื้อหาบทที่ ๓-๖ ให้ครูอาสานำคำทดสอบ ๕๐ คำใช้ครั้งแรกก่อนเข้าโครงการมาทดสอบให้เด็กเขียนตามคำบอกอีกครั้ง เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการและผลสัมฤทธิ์ในการแก้ปัญหา (โดยทั่วไป ถ้าครูอาสาดำเนินการอย่างครบถ้วนตามเนื้อหาแบบฝึก กระบวนการ และขั้นตอนต่างๆ ดังที่กล่าวแล้ว โดยไม่มีปัญหาหรืออุปสรรคแทรกซ้อน จะได้ผล ๑๐๐%)
(๘) จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินโครงการเสนอหน่วยงานในสังกัดรับทราบ

*การบริหาร กำกับติดตาม นิเทศ และประเมินผล

ฝ่ายบริหารและฝ่ายวิชาการจะต้องเรียนรู้กระบวนการ ขั้นตอน วิธีการต่างๆ จากหนังสือ เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แก้ง่ายนิดเดียว ของ ผศ.ศิวกานท์ ปทุมสูติ ให้เกิดความเข้าใจตรงกันกับครูอนุบาล ครู ป.๑ และครูอาสา เพื่อวางแผนงานสนับสนุน ติดตามกำกับดูแล นิเทศ และช่วยเหลือ ดังนี้
๓.๑ จัดสรรงบประมาณสนับสนุนเพื่อการจัดซื้อกระดาษ และเครื่องเขียน เพื่อเขียนชาร์ตประกอบการสอนชุดละประมาณไม่น้อยกว่า ๒๐๐ แผ่น
๓.๒ บริหารบุคลากรและวิชาการให้เอื้อต่อกระบวนการแก้ปัญหา (มีรายละเอียดในหนังสือ)
๓.๓ ติดตามกำกับดูแล นิเทศ และช่วยเหลือ ให้การดำเนินการข้างต้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ประวัติ บังยี วรวีร์ มะกูดี

ประวัติวรวีร์ มะกูดี

    เกิดวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ที่เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร จบการศึกษาระดับชั้นประถมจากโรงเรียนวัดมหรรณพาราม และระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ เป็นนักฟุตบอลทีมโรงเรียน ร่วมกับสโมสรมุสลิม ได้ลงแข่งขันฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ค และ ง ด้วย ก่อนที่ชีพจรลงเท้าย้ายไปร่วมทีมสโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงเทพ และได้ร่วมแข่งขันฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ก และ ข
    การศึกษาระดับปริญญาตรีไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติคูเวต จากทุนกีฬา หลักสูตรนานาชาติ พร้อมกับเป็นนักฟุตบอลของมหาวิทยาลัยควบคู่ไปด้วย
    เมื่อจบระดับปริญญาตรี วรวีร์ มะกูดี ได้เข้าบริหารทีมฟุตบอลสโมสรฟุตบอลโรงเรียนหนองจอกพิทยานุสรณ์ (ปัจจุบันคือสโมสรฟุตบอล เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด) และ สโมสรฟุตบอลโรงเรียนศาสนวิทยา (ปัจจุบันคือสโมสรฟุตบอลบีอีซี เทโร ศาสน) 
    ต่อด้วยไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษด้วย


วิธีลดอาการบวมน้ำของสาวๆ

ว่ายน้ำ การออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำจะสามารถช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นได้ ดังที่เรียกว่า "หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง" เพราะน้ำในสระจะเป็นแรงดันน้ำส่วนเกินจากเนื้อเยื่อออกไปได้ และควรว่ายน้ำในอุณหภูมิ 27-32 องศาเซลเซียส สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 37 องศาเซลเซียส
 
งดอาหารรสจัด หลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้โดยเฉพาะอาหารรสเค็ม ซึ่งความเค็มจะไปกระตุ้นให้ร่างกายกักเก็บน้ำเอาไว้จนกว่าไตจะทำหน้าที่ขับออกมา ซึ่งกว่าไตจะขับออกมาก็ใช้ระยะเวลานานถึง 24 ชั่วโมง
 
ดื่มน้ำ พยายามดื่มน้ำให้มากขึ้น ด้วยวิธีการจิบน้ำครั้งละเล็กน้อย เพราะการดื่มน้ำเพิ่มเข้าไปจะช่วยให้อาการดังกล่าวลดลง น้ำจะช่วยให้เราขับปัสสาวะและเจือจางความเค็มออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น
 
กินขึ้นฉ่าย ขึ้นฉ่ายถือเป็นสมุนไพรที่หาได้ง่าย และยังมีสรรพคุณช่วยลดอาการบวมน้ำที่เกิดขึ้นได้ ด้วยการช่วยเร่งให้คุณปัสสาวะ บรรเทาอาการได้ดี
 
นอนยกเท้าขึ้นสูง ช่วยให้น้ำที่ขังอยู่ตามขาไหลกลับเข้าระบบไต เพื่อขับออกมาได้ง่ายขึ้น

Cat Cafe คาเฟ่แมว 3 ที่ 3 สไตล์

เริ่มที่ร้านแรก Cataholic Cafe ค่ะ ไปเมื่อเดือนสิงหาค่ะ
น้องแมวที่นี่น่ารักมากเลยค่ะ ที่ร้านมีกฎห้ามรบกวนแมวที่นอนหลับ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็หลับ --")
ส่วนตัวรู้สึกว่าแมวน้อยไปเมื่อเทียบกับจำนวนลูกค้า ไม่หนำใจเท่าไหร่ 555
ถ้าจำไม่ผิดวันนั้นอยู่ข้างนอกแค่ 6 ตัวเอง แล้วก็งีบกันบ่อยมาก

ร้านตกแต่งน่ารัก สะอาดสะอ้าน ดูสบายตาดีค่ะ ส่วนพนักงานก็ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นกันเองดี

วันนั้นลองสั่งเมนูยอดฮิต Catch Me if You Can มาลอง มันเป็น toast ธรรมดาๆ แต่โรยด้วยผงชอคโกแลตเป็นรูปเท้าแมว
น่ารัก เข้าใจทำดีค่ะ แต่รสชาติธรรมดา เสิร์ฟมา 2 แผ่น ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 60 บาท
ส่วนเครื่องดื่ม เราสั่งโกโก้เย็น เข้มข้น ใช้ได้ค่ะ ส่วนแฟนสั่งกาแฟเย็น สำหรับคอกาแฟ แก้วนี้ผิดหวังค่ะ
เท่าที่ดูจากเมนูแล้ว ราคาขนม-เครื่องดื่มที่นี่ค่อนข้างสูงค่ะ เราไม่ได้ลองเค้กเลยไม่รู้ว่ารสชาติเป็นยังไง
แต่ก็เข้าใจเรื่องราคานะ เพราะเราเข้าไปเล่น/ถ่ายรูปกับแมวเค้า แต่ละตัวก็หลายตังค์อยู่ โดยรวมก็คุ้มค่ะ

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Honda City 2014 ฮอนด้า ซิตี้ 2014 ใหม่ เปิดตัวแล้วที่อินเดีย


Honda City 2014 ฮอนด้า ซิตี้ 2014 รถยนต์รุ่นยอดฮิตจากค่ายกังหันที่หลายคนรอคอย เตรียมเขย่าตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กอีกครั้ง โดยมีกำหนดการเปิดตัวในประเทศไทยช่วงต้นปี 57  แต่เพื่อไม่ให้เป็นการรอคอยที่ยาวนานจนเกินไปวันนี้เรามีภาพรถยนต์ Honda City 2014 ที่เพิ่งเปิดตัวที่ประเทศอินเดียมาให้ชม โดยรูปลักษณ์ไม่ต่างจากตัวที่จะเข้าไทยแน่ๆ แถมมีข่าวหลุดมาว่า ฮอนด้า ซิตี้ 2014 ตัวใหม่นี้จะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Earth Dreams ด้วยครับ

ราคารถใหม่ ALL-New Honda City 2014

มิโมซ่า พัทยา

มิโมซ่า พัทยา (Mimosa Pattaya)
การเดินทางมา มิโมซ่า พัทยา ก็ง่ายมากครับ
ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงแรมแอมบาสเดอร์ จอมเทียน จังหวัดชลบุรี หาง่ายมากๆ

มิโมซ่า พัทยา (Mimosa Pattaya)
ค่าเข้าชม Mimosa ผู้ใหญ่คนละ 50 บาทครับ 
ส่วนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และนักเรียน นักศึกษา พกบัตรแสดงตนมาเข้าฟรี

มิโมซ่า พัทยา (Mimosa Pattaya)
ตอนนี้ภายในของ Mimosa เสร็จไปแล้วประมาณ 80% ครับ
ส่วนชั้นบนที่เห็นในภาพ  เขากำลังทำส่วนของห้องพัก
คล้ายๆ ที่ปาลิโอ อินน์ เขาใหญ่เลย

มิโมซ่า พัทยา (Mimosa Pattaya)
เขาบอกว่าที่นี่ มิโมซ่า (Mimosa) จำลองมาจาก COLMAR หมู่บ้านในเมือง Alsace ของฝรั่งเศส เป็นเมืองเก่าเล็กๆ สีสันสวยงาม ยกมาไว้เป็นที่เที่ยวพัทยาซะเลย

มิโมซ่า พัทยา (Mimosa Pattaya)
การตกแต่งภายในของ Mimosa ถือว่าสวยทีเดียวเลยครับ
คาดว่าน่าจะถูกใจสาวๆ ที่ชอบถ่ายรูปทั้งหลาย
 

ปวดท้องน้อยในสตรี อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

ลักษณะของการปวดท้องน้อย


อาการปวดจะแตกต่างกันไป จากสาเหตุที่แตกต่างกัน อาการปวดอาจเป็นพัก ๆ หรือตลอดเวลา อาจเกี่ยวข้องกับระยะของประจำเดือน การถ่ายอุจจาระ ถ่ายปัสสาวะ หลังจากรับประทานอาการ หรือ ระหว่าง หรือหลังจากมีเพศสัมพันธ์ บางทีก็ร้าวไปที่อวัยวะอื่น ซึ่งมักเป็นหลัง ก้นกบ ต้นขา เป็นต้น อาการปวดดังกล่าว อาจรบกวนการทำงาน การเคลื่อนไหว การนอน การมีเพศสัมพันธ์ และบางครั้งก็ปวดจนสุดที่จะทนได้ ถ้าเกิดขึ้นนาน ๆ ก็ทำให้เกิดความเครียด ร่างกายและจิตใจผิดปกติไป

       
ถ้าคุณสามารถอธิบายลักษณะการปวดได้ว่าเป็น ๆ หาย ๆ หรือตลอดเวลา ปวดตื้อๆ หรือแปลบ ๆ ปวดร้าวไปที่ไหน และเมื่อไรที่ คุณจะรู้สึกว่ามันปวดมากขึ้น เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้แพทย์ช่วยวินิจฉัยได้ง่ายขึ้น


สาเหตุของการปวดท้องน้อย

       
การปวดท้องน้อย อาจเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน อาจเป็นลักษณะทันทีทันใด หรือเป็นเรื้อรังนาน ๆ ก็ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ต่างกัน เมื่อจะไปหาแพทย์ แพทย์มักจะถามหลายคำถามเกี่ยวกับลักษณะการปวด และการรบกวนผิดปกติที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ขณะที่มีอาการปวด การปวดท้องน้อยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ

     
1. การปวดท้องน้อยอย่างทันทีทันใด (Acute Pelvic Pain)

      
การปวดท้องน้อยทันทีทันใดมักเกิดจากสาเหตุอย่างหนึ่งอย่างเดียว เช่น การอักเสบ มดลูกอักเสบ เนื้องอกของรังไข่ หรือ ท้องนอกมดลูก
      
การอักเสบ ได้แก่ มดลูกอักเสบ ปีกมดลูกอักเสบ การอักเสบของทางเดินปัสสาวะ ลำไส้ หรือ ไส้ติ่งอักเสบ
มดลูกอักเสบ (Pelvic in flammatory disease) โดยทั่วไป หมายถึง มีการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ อาจมีอาการปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะบ่อย มีอาการปวดหลังร่วมด้วย
      
เนื้องอกรังไข่ อาจมีลักษณะเป็นเนื้องอกตันหรือถุงน้ำ (Cyst) อาการปวดอาจมีลักษณะปวดตื้อๆ ถ่วง ๆ ท้องน้อย จะมีอาการปวดแบบทันทีทันใด ถ้าถุง Cyst มีการรั่ว ทำให้น้ำหรือเลือดออกมาในช่องท้อง หรือมีการบิดตัวที่ขั้ว Cyst
      
ท้องนอกมดลูก คือ การตั้งครรภ์ที่ตัวอ่อนไปเกาะเจริญที่อื่นนอกตัวมดลูก มักเกิดขึ้นที่ท่อนำไข่ คือ หลังจากปฏิสนธิตัวอ่อน ซึ่งควรจะเคลื่อนเข้ามาในมดลูก แต่มาไม่ได้ อาจจะเกิดจากมีพังผืดในท่อนำไข่ เมื่อเจริญมากขึ้นก็ดันท่อนำไข่โป่งและแตก มีเลือดไหลออกมาในช่องท้อง ทำให้ปวดและมีอาการเสียเลือด อาจมีอาการช็อกและเสียชีวิตได้

    
2. การปวดท้องน้อยเรื้อรัง

       
อาจมีสาเหตุเดียวหรือเกิดจากหลาย ๆ สาเหตุร่วมกัน อาการเริ่มแรกมักปวดเป็นๆ หาย ๆ แล้วต่อมาปวดตลอดเวลา หรือ บางรายปวดร่วมกับการมีรอบประจำเดือน ตัวอย่างเช่น ปวดประจำเดือน สาเหตุจากโรคอวัยวะอื่น ๆ เนื้องอกมดลูก และ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นผิดที่
      
ปวดประจำเดือน เมื่อสตรีมีประจำเดือนไม่ควรจะปวด หรือปวดเพียงเล็กน้อยพอรู้สึก ถ้าปวดมากมักจะมีความผิดปกติเกิดขึ้น อาจเกิดจากการมีสารเคมีบางอย่าง ที่ทำให้มดลูกบีบตัวมากเกินไป (Prostaglandin) หรือจากมีเนื้องอกมดลูก หรือจากโรคเยื่อบุโพรงมดลูกขึ้นผิดที่ ถ้าปวดช่วงกลาง ๆ รอบเดือน (คือ ประมาณวันที่ 14 - 15 ของรอบเดือน) บางครางมีเลือดออกด้วยน้อย ๆ อาจเกิดจากการตกไข่ เชื่อว่า น้ำจากถุงรังไข่ขณะตกไข่ไหลออกมาระคายเคืองเยื่อบุช่องท้องที่อาจมีความผิดปกติบางอย่าง ซึ่งอาจจะมีอาการน้อย ๆ หรือปวดมากก็ได้
      
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นผิดที่ หมายความว่า การที่มีเยื่อบุโพรงมดลูกที่มีหน้าที่เลี้ยงตัวอ่อนเวลาเริ่มตั้งครรภ์ หรือเมื่อหลอดเลือดออกมาพร้อมกับเลือดจากโพรงมดลูกเวลามีประจำเดือนนั้น ไปขึ้นอยู่นอกโพรงมดลูก ซึ่งอาจจะเป็นว่าขึ้นอยู่ภายในเนื้อมดลูก หรือขึ้นอยู่ภายนอกมดลูกในอุ้งเชิงกราน ซึ่งโรคนี้จะทำให้มีอาการปวดประจำเดือน โดยเฉพาะในวันแรกๆ ของประจำเดือน หรือวันก่อนมีประจำเดือนมา แล้วมักจะปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ
      
สำหรับคนที่มีคู่แล้ว อาจมีปัญหาว่าเจ็บในท้องน้อยเวลามีเพศสัมพันธ์หรือมีบุตรยาก ทั้งนี้เพราะการที่เยื่อบุโพรงมดลูกไปขึ้นผิดที่ทำให้มีปฏิกิริยาของร่างกายบริเวณนั้นต่อต้านเหมือนมีการอักเสบ เมื่อนาน ๆ เข้าก็เกิดเป็นพังผืดเกิดขึ้น และการที่เลือดออกเหมือนประจำเดือนก็ทำให้เลือดขังอยู่ โดยเฉพาะในเนื้อมดลูกและรังไข่ ทำให้เกิดเป็นถุง Cyst ขึ้นและทำให้ปวด บางครั้งเลือดที่ขังอยู่ใน Cyst รั่วหรือแตกออกมาระคายเคืองเนื้อเยื่อช่องท้อง ก็ทำให้มีอาการปวดรุนแรงฉับพลันได้ ส่วนที่ขึ้นอยู่ในเนื้อมดลูกทำให้ตัวมดลูกโตขึ้น ทำให้เลือดประจำเดือนมามากขึ้นเหมือนอาการของเนื้องอกมดลูกได้
      
เนื้องอกมดลูก หมายถึง กล้ามเนื้อของมดลูกกลายเป็นเนื้องอก คือแบ่งตัวเจริญเร็วกว่าธรรมดาไม่หยุดนิ่ง แต่ไม่ใช่มะเร็ง เพราะไม่ลุกลามไปที่อื่น แต่มดลูกที่โตจะไปเบียดบังอวัยวะอื่น ทำให้ปวดหรือ เนื้อดีของมดลูกพยายามบีบตัวไล่ก้อนเนื้องอกเวลามีประจำเดือน เพราะคิดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม จึงทำให้มีอาการปวดขึ้นได้
      
สาเหตุจากโรคอวัยวะอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับอวัยวะสืบพันธ์ ก็ทำให้มีอาการปวดท้องน้อยได้ เช่น กล้ามเนื้อหน้าท้อง หลัง กล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานอักเสบ ลำไส้อักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ มีนิ่วในกระเพาะปัสสาวะหรือที่ท่อไต หรือแม้กระทั่งภาวะทางจิตใจหรือภาวะเครียด


การวินิจฉัยโรคปวดท้องน้อย

       
เนื่องจากสาเหตุของการปวดท้องน้อย มีหลายอย่าง เมื่อไปพบแพทย์ แพทย์อาจจะต้องใช้เวลาในการหาสาเหตุที่ถูกต้อง เริ่มต้นด้วยการซักถามประวัติเกี่ยวกับการปวดการมีประจำเดือน การมีโรคอื่น ๆ ร่วมด้วย รวมทั้งความเป็นอยู่ สภาพจิตใจ และการตรวจร่างกาย รวมทั้งการตรวจภายใน อาจต้องปรึกษาแพทย์ต่างแผนกบ้างแล้วแต่ว่านึกถึงโรคอื่นใด นอกเหนือจากโรคทางสตรี อาจต้องมีการตรวจพิเศษเพิ่มเติมนอกเหนือจากการตรวจภายในและการตรวจร่างกายแล้วแต่ว่าอาการและการตรวจของแพทย์สงสัยโรคอะไร เพื่อความมั่นใจในการวินิจฉัย เช่น

    
- การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) ซึ่งจะทำให้เห็นลักษณะของมดลูกและปีกมดลูกได้ดี
      - การส่องตรวจกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ
      - การตรวจทวารหนักและส่องตรวจสำไส้ใหญ่
      - การส่องตรวจทางหน้าท้องดูในอุ้งเชิงกราน
      - การทำเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์หรือเอ็มอาร์ไอ
      - การฉีดสีดูระบบทางเดินปัสสาวะ
      - การกลืนแป้งหรือสวนแป้งเอกซ์เรย์ดูทางเดินอาหาร

    
การซักประวัติ : ให้บอกแพทย์ให้ละเอียดว่าลักษณะการปวดเป็นอย่างไร
         - เป็นมากเวลาไหน
         - ปวดประจำเดือนหรือไม่
         - เกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ
         - การถ่ายอุจจาระ
         - การมีเพศสัมพันธ์
         - ท่าทางการเดินนั่งในชีวิตประจำวัน
         - การออกกำลังกาย
         - การหลับนอนกลางคืน

    
เล่าให้แพทย์ฟังถึงลักษณะการปวด
         - ปวดจี๊ดๆ หรือ ตื้อๆ
         - ปวดเป็นพักๆ หรือปวดตลอดเวลา
         - ระยะเวลาที่ปวดมาก
         - ความรุนแรง
         - ตำแหน่งที่ปวดอยู่ที่เดียว หรือเปลี่ยนตำแหน่ง
         - อะไรทำให้ดีขึ้น หรือ เลวลง


การรักษา

       
เมื่อทราบสาเหตุแล้ว แพทย์จะแนะนำหรือรักษาโดยทางเลือกต่างๆ ที่จะทำให้การปวดหาย หรือดีขึ้น หรือไม่เลวลง คือ

     
1. โดยการใช้ยารักษา เช่น ยาปฏิชีวนะ ถ้ามีการอักเสบติดเชื้อ เช่น มดลูกอักเสบ ยาลดการอักเสบ ถ้ามีการอักเสบที่ไม่ติดเชื้อ เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญขึ้นผิดที่ หรือบางทีอาจทำให้ยาฮอร์โมนหรือยาคุมกำเนิด เพื่อลดอาการปวดประจำเดือน ส่วนใหญ่การให้ยาในโรคเยื่อบุโพรงมดลูกขึ้นผิดที่ หรือเนื้องอกมดลูก มักเป็นการรักษาแบบชั่วคราว เมื่องดยาอาการก็เกิดขึ้นอีก

    
2. การผ่าตัด โรคบางอย่างต้องรักษาโดยการผ่าตัด เช่น โรคเยื่อบุโพรงมดลูกขึ้นผิดที่ในอุ้งเชิงกราน การผ่าตัดโดยวิธีการส่องกล้องผ่านช่องท้องจะทำให้รู้สาเหตุ และรักษาสาเหตุไปในคราวเดียวกันได้บางอย่าง เช่น เนื้องอกมดลูก หรือ มีถุงน้ำรังไข่ (Cyst) ก็ทำการผ่าตัดวิธีใดวิธีหนึ่งได้โดยทราบวินิจฉัยก่อนผ่าตัดได้ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้อธิบายให้ฟังก่อนการผ่าตัดถึงความจำเป็น ผลดีและโรคแทรกซ้อน ขึ้นอยู่กับว่าเป็นโรคอะไร

     
3. การรักษาวิธีอื่นๆ เช่น การให้กายภาพบำบัด การให้ยาคลายการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ การฉีดยาชาเฉพาะที่ รวมทั้งการสอนให้มีการออกกำลังกาย การฝึกท่าทางการเดินการนั่ง ฯลฯ

          
สรุป การปวดท้องน้อย มีทั้งชนิดเฉียบพลัน และชนิดเรื้อรัง ส่วนใหญ่เกิดจากอวัยวะสืบพันธุ์ แต่ก็เกิดจากอวัยวะอื่นใกล้เคียง อาจจำเป็นต้องรักษาแบบฉุกเฉิน ซึ่งอาจจะเป็นโดยยาหรือผ่าตัด หรือแพทย์ทางเลือก แล้วแต่สถานการณ์ และสาเหตุซึ่งแพทย์ที่ชำนาญจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาแนะนำได้

LINE ไลน์ ปล่อยวีดีโอฉลองผู้ใช้งานทะลุ 300 ล้านคนทั่วโลก

LINE ไลน์ ปล่อยวีดีโอฉลองผู้ใช้งานทะลุ 300 ล้านคนทั่วโลก
    LINE ไลน์ แอพพลิเคชั่นเทคโนโลยีสนทนาสุดชิคยืนยันการมีผู้ใช้งานลงทะเบียน register ทะลุ 300 ล้านคนทั่วโลกแล้วเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2556 ก่อนจะประกาศอย่างเป็นทางการผ่านทางแอพพลิเคชั่นในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556
    ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ได้ทำงานปล่อยวีดีโอฉลองยอดผู้ใช้งานทะลุ 300 ล้านคนครั้งนี้ ด้วยการแสดงวิวัฒนาการของ แอพพลิเคชั่น Line ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งมีผู้ใช้บริการทยอยลงทะเบียนจนกลายเป็นสถิติในครั้งนี้

วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Toyota Vigo โปรโมชั่นพิเศษข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo วันนี้ - 10 ธันวาคมนี้

Toyota Hilux Vigo โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ต้อนรับสิ้นปีด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับ โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ด้วยข้อเสนอเดียวกับ มอเตอร์ เอ็กซ์โป (Motor Expo) วันนี้ - 10 ธันวาคม 2556

-โปรแกรมผ่อนสบายดีเริ่มต้นสบายๆแค่ 3,650 บาท/เดือน ฟรีประกันภัยชั้น 1

-โปรแกรมสนุกดี นำกระบะโตโยต้ามาแลกซื้อรับมูลค่ารถเก่าสูงสุด 50,000 บาท เริ่มผ่อนฟรีปีหน้า พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1

-ทดลองขับรับทันที บัตรกำนัลมูลค่า 200 บาท

-ซื้อรถยนต์โตโยต้ารุ่นใดก็ได้วันนี้ มีสิทธิ์ลุ้นเป็นเจ้าของรถยนต์โตโยต้าเพิ่มอีก 1 คัน ทุกวัน

ราคารถใหม่

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ลอยกระทง (Loy Krathong) แอพฯใหม่สุดเก๋สำหรับคนรักเทคโนโลยี

ลอยกระทง (Loy Krathong) อีก 1 เทศกาลของคนไทยที่มีมานมนาน และยังคงปฏิบัติกันต่อเรื่อยมาจนปัจจุบัน สำหรับประเพณีดีๆแบบนี้ทาง Boxza.com ก็เอาใจคนรักเทคโนโลยีด้วยแอพพลิเคชั่นเก๋ๆต้อนรับเทศกาลอันดีงามนี้ด้วยแอพพลิเคชั่นลอยกระทงผ่าน Gadget ซึ่งเหมาะกับคนรุ่นใหม่ และสามารถเอาไปแชร์ให้เพื่อนแบบกิ๋บเก๋อินเทรนด์ก่อนใคร


ลอยกระทง (Loy Krathong) แอพพลิเคชั่นใหม่เก๋ๆสำหรับคนรักเทคโนโลยี

เลขเด็ดแม่จำเนียร

เลขเด็ดงวดนี้ หวยแม่จำเนียร สิบเลขเด็ด ขายดี 16 พ.ย. 2556

 เป็นอย่างไรกันบ้างสิบเลขเด่นขายดีของงวดที่แล้ว และงวดนี้มีมาให้เลือกกันแล้วนะจ๊ะ ใกล้วันหวยออกแล้ว ดวงดีได้ ดวงร้ายเสีย ใช้วิจารณญาณในการเล่นหวย นะพี่น้องงงง

เลขเด็ดงวดนี้ หวยแม่จำเนียร งวด 16 พฤศจิกายน 2556

…สิบเลขขายดีแผงแม่จำเนียร…
หวยแม่จำเนียร สิบเลขเด็ด ขายดี 16 พ.ย. 2556

หวยแม่จำเนียร สิบเลขเด็ด ขายดี 16 พ.ย. 2556

เลขขายดีจากแม่จำเนียร 16 พฤศจิกายน 2556

หวยแม่จำเนียร สิบเลขเด็ด ขายดี 16 พฤศจิกายน 2556

สิบเลขเด็ดแม่จำเนียรงวด 16 พฤศจิกายน

สิบเลขเด็ดงวดนี้  หวยแม่จำเนียร

เลขเด็ดแม่จำเนียร

11 17 13 23 56 19 59 12 24 85

ระวังเลขเบิ้ล เลขตอง

44 55 77 88
หวยตามกระแส ข่าวหวย เลขระวัง

- เลขเด็ดสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ประสูติ 2456 มรณะภาพ 24 ตุลาคม 2556 เวลา 19.30 น. พระชันษา 100 ปี 21 วัน
- สมเด็จพระสังฆราช เกิดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2456 อุปสมบทเมื่อ พ.ศ. 2476 มรณภาพ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556 พรรษา 80 ปี 329 วัน อายุ 100 ปี 21 วัน
- 80 พรรษา 329 วัน ทะเบียนรถพระศพ 9859
- 17 พ.ย. วันลอยกระทอง

- 103 ปี วันปิยะมหาราช 523 ร.5 ครองราชย์ 43 ปี

- 49 ศพ เครื่องบินลาวตก

หวยแม่จำเนียร, เลขขายดี, เลขมาแรง, เลขเด็ด, แม่จำเนียร

เลขดัง เลขมงคล 16 พ.ย. 56

10 เลขเด็ดแม่จำเนียร, สิบเลขขายดี, หวย, หวยแม่จำเนียร,เลขเด็ด, เลขเด็ดงวด 16 พ.ย. 2556 , เลขเด็ดงวดนี้, แม่จำเนียร , แม่จำเนียร 16 พ.ย. 2556 , สิบเลขเด็ด ,สิบเลขเด็ดแม่จำเนียร , แม่จำเนียร 16 พฤศจิกายน 2556 , แม่จำเนียร 16 พ.ย. , เลขเด็ดงวด 16 พ.ย. ,  เลขเด็ดงวดนี้  16 พ.ย., เลขเด็ด 16 พฤศจิกายน , ตรวจสลากกินแบ่ง งวด 16 พ.ย. ,ตรวจหวย 16 พ.ย. , ตรวจหวย 16 พฤศจิกายน

ขอบคุณสิบเลขขายดีจาก แม่จำเนียร ล็อตเตอรี่’s Page

กำแพงเบอร์ลิน

จุดกึ่งกลางสะพาน จะมองเห็นว่ามีสีอ่อน และสีเข้ม แตกต่างกัน
เขาแลกเปลี่ยนสายลับกันที่จุดนี้ล่ะค่ะ
          ขอกลับมาถึงเรื่องของกำแพงเบอร์ลินนะคะ
หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ สิ้นสุดลงในปี พ.ศ. ๒๔๘๘
เยอรมัน ถูกแบ่งให้อยู่ในการดูแลของมหาอำนาจ
๒ ฝ่าย อันได้แก่ฝ่ายโลกเสรี กับฝ่ายคอมมิวนิสต์
ได้กลายเป็นสังเวียนแห่งความขัดแย้งที่สำคัญแห่งหนึ่งในสงครามเย็น
ทั้งนี้เป็นเพราะมหาอำนาจทั้ง ๒ ฝ่าย
ต่างพยายาม จัดการ กับดินแดนในความครอบครองของตน
ในแบบแนวคิดของตนเอง ... เสรีนิยม หรือ คอมมิวนิสต์ ...
จากประเทศเดียว กลายเป็น ๒ ประเทศ คือ
เยอรมันตะวันตก อยู่ในความดูแลของ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส
เยอรมันตะวันออก อยู่ในความดูแลของสหภาพโซเวียต
          ส่วน เบอร์ลิน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเยอรมันตะวันออก ก็ถูกแบ่งเป็น ๒ ส่วนด้วย
เบอร์ลินตะวันตก อยู่ในความดูแลของ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส
เบอร์ลินตะวันออก อยู่ในความดูแลของสหภาพโซเวียต
ลองนึกย้อนถึงใจคนเบอร์ลินตอนนั้นคงเต็มไปด้วยความสับสน
เพราะในพื้นที่ที่เคยเดินไปซื้อของ ไปเยี่ยมญาติ ไปเที่ยวพักผ่อน
กลับมีทหารต่างชาติ ต่างภาษา มากั้นเขต กั้นคนที่พูดภาษาเดียวกัน
ทำให้ไม่มีอิสรภาพ อย่างที่เคยเป็นมา
และถึงแม้จะยังคงเดินทางไปมาหาสู่กันได้
แต่การมองเห็นชีวิตความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันของ ๒ ฝั่ง
ทำให้ผู้คนต่างแสวงหาสิ่งที่ดีกว่า
เกิดการอพยพอย่างมากมายจากเบอร์ลินตะวันออก สู่ เบอร์ลินตะวันตก
          ซึ่งนำไปสู่การปิดพรมแดน ปิดล้อมเบอร์ลินตะวันตก
          ความเข้มข้นของการปิดล้อมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
          จนถึงระดับที่เงาทมึนแห่งกำแพงได้แยกชาวเบอร์ลินออกจากกัน
.........อย่างเด็ดขาด

แนวกำแพงแบบนี้ที่เคยกั้นคนชาติเดียวกันไว้โดยคนชาติอื่น
เป็นแนวที่พวกเขาพยายามที่จะข้ามมาหากัน
แม้จะต้องแลกด้วย....ชีวิต

ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๐๔ พ.ศ. ๒๕๓๒
มีผู้เสียชีวิตบริเวณกำแพงเบอร์ลินอย่างน้อย ๑๓๖ คน
จากหลาย ๆ สาเหตุ ทั้งถูกยิง ถูกทำร้าย จมน้ำในแนวแบ่งเขตกลางแม่น้ำ
ฆ่าตัวตายจากความกลัวถูกจับได้ขณะกำลังหนี และ อีกหลายประการ
รูปด้านบนคือภาพผู้เสียชีวิตที่จัดแสดงในบริเวณพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งใกล้แนวกำแพง

การรอคอย

การรอคอย … เป็นเรื่องที่ทรมาน
โดยเฉพาะการรอคอยที่จะกลับมาพบกัน หรือรอคอยใครสักคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
เพราะในเวลาแห่งการรอคอยนั้น มันมีมากกว่า 24 ชั่วโมง
และเข็มนาฬิกาก็เดินช้าขึ้นอีกเป็นเท่าตัว…

จากเวลาที่นานอยู่แล้วจึงนานยิ่งกว่า และการดำเนินชีวิตระหว่างการรอนั้น
ก็มีตัวแปรมากมายที่จะทำให้คนเปลี่ยนไปอยู่ทุกขณะ
เพราะทุกคนมีพื้นฐานความเหงา และโดดเดี่ยวอยู่ในตัวเอง พอๆ กับความอ่อนไหว

เป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้ระยะทางเป็นเครื่องวัดความรู้สึก
พิสูจน์ความแข็งแรงของความรัก วัดการกระทำ…
ความเสมอต้นเสมอปลาย และความอดทน
ด้วยเงื่อนไขของความลำบากแห่งกาลเวลา และตัดสินว่า…การรอคอยจะคุ้มค่าหรือไม่

การอยู่ห่างกัน… จึงจำเป็นต้องพิสูจน์กันด้วยความเข้มแข็ง
ต่างคนต่างก็ต้องทำหัวใจให้เข้มแข็งกับอารมณ์ต่างๆ
ที่คอยรบกวน…และคอยชักจูงออกนอกลู่นอกทาง

เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย…ที่วันนึงเราพบว่า
คนคนหนึ่ง…คือคนที่ชีวิตเราตามหามาตลอด และใครสักคนที่เป็นได้อย่างที่เราฝัน

มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
และคนที่จะฝ่าฟันกับการบีบคั้นแห่งการรอคอย
กลับมาหาเราได้ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา…

เพราะฉะนั้น…
ย่อมหมายถึง…ความรู้สึกที่เค้ามีอยู่ก็คงไม่ได้ธรรมดา
และคนคนนั้นก็ย่อมเต็มค่า

เวลาที่ชาวประมงจะเลี้ยงหอยมุก จะต้องใช้เวลาเนิ่นนาน
และสามารถรอคอยได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เพราะเขารู้ว่า เมื่อไหร่ถึงเวลาที่มุกสามารถนำมาร้อยเป็นสร้อยได้ ย่อมเกิดค่ามหาศาล

…ชีวิตจึงจำเป็นต้องรอคอยใครสักคนให้ได้
หากรู้ว่าเป็นใครสักคน …ที่มีค่าแก่การรอคอย…

การรอคอย … เป็นเรื่องที่ทรมาน
โดยเฉพาะการรอคอยที่จะกลับมาพบกัน หรือรอคอยใครสักคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
เพราะในเวลาแห่งการรอคอยนั้น มันมีมากกว่า 24 ชั่วโมง
และเข็มนาฬิกาก็เดินช้าขึ้นอีกเป็นเท่าตัว…
จากเวลาที่นานอยู่แล้วจึงนานยิ่งกว่า และการดำเนินชีวิตระหว่างการรอนั้น
ก็มีตัวแปรมากมายที่จะทำให้คนเปลี่ยนไปอยู่ทุกขณะ
เพราะทุกคนมีพื้นฐานความเหงา และโดดเดี่ยวอยู่ในตัวเอง พอๆ กับความอ่อนไหว
เป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้ระยะทางเป็นเครื่องวัดความรู้สึก
พิสูจน์ความแข็งแรงของความรัก วัดการกระทำ…
ความเสมอต้นเสมอปลาย และความอดทน
ด้วยเงื่อนไขของความลำบากแห่งกาลเวลา และตัดสินว่า…การรอคอยจะคุ้มค่าหรือไม่
การอยู่ห่างกัน… จึงจำเป็นต้องพิสูจน์กันด้วยความเข้มแข็ง
ต่างคนต่างก็ต้องทำหัวใจให้เข้มแข็งกับอารมณ์ต่างๆ
ที่คอยรบกวน…และคอยชักจูงออกนอกลู่นอกทาง
เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย…ที่วันนึงเราพบว่า
คนคนหนึ่ง…คือคนที่ชีวิตเราตามหามาตลอด และใครสักคนที่เป็นได้อย่างที่เราฝัน
มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
และคนที่จะฝ่าฟันกับการบีบคั้นแห่งการรอคอย
กลับมาหาเราได้ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา…
เพราะฉะนั้น…
ย่อมหมายถึง…ความรู้สึกที่เค้ามีอยู่ก็คงไม่ได้ธรรมดา
และคนคนนั้นก็ย่อมเต็มค่า
เวลาที่ชาวประมงจะเลี้ยงหอยมุก จะต้องใช้เวลาเนิ่นนาน
และสามารถรอคอยได้อย่างไม่น่าเชื่อ 
เพราะเขารู้ว่า เมื่อไหร่ถึงเวลาที่มุกสามารถนำมาร้อยเป็นสร้อยได้ ย่อมเกิดค่ามหาศาล 
…ชีวิตจึงจำเป็นต้องรอคอยใครสักคนให้ได้
หากรู้ว่าเป็นใครสักคน …ที่มีค่าแก่การรอคอย…
- See more at: http://www.roojingpa.com/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81-%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97.html#sthash.peb6HKBK.dpuf
การรอคอย … เป็นเรื่องที่ทรมาน
โดยเฉพาะการรอคอยที่จะกลับมาพบกัน หรือรอคอยใครสักคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
เพราะในเวลาแห่งการรอคอยนั้น มันมีมากกว่า 24 ชั่วโมง
และเข็มนาฬิกาก็เดินช้าขึ้นอีกเป็นเท่าตัว…
จากเวลาที่นานอยู่แล้วจึงนานยิ่งกว่า และการดำเนินชีวิตระหว่างการรอนั้น
ก็มีตัวแปรมากมายที่จะทำให้คนเปลี่ยนไปอยู่ทุกขณะ
เพราะทุกคนมีพื้นฐานความเหงา และโดดเดี่ยวอยู่ในตัวเอง พอๆ กับความอ่อนไหว
เป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้ระยะทางเป็นเครื่องวัดความรู้สึก
พิสูจน์ความแข็งแรงของความรัก วัดการกระทำ…
ความเสมอต้นเสมอปลาย และความอดทน
ด้วยเงื่อนไขของความลำบากแห่งกาลเวลา และตัดสินว่า…การรอคอยจะคุ้มค่าหรือไม่
การอยู่ห่างกัน… จึงจำเป็นต้องพิสูจน์กันด้วยความเข้มแข็ง
ต่างคนต่างก็ต้องทำหัวใจให้เข้มแข็งกับอารมณ์ต่างๆ
ที่คอยรบกวน…และคอยชักจูงออกนอกลู่นอกทาง
เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย…ที่วันนึงเราพบว่า
คนคนหนึ่ง…คือคนที่ชีวิตเราตามหามาตลอด และใครสักคนที่เป็นได้อย่างที่เราฝัน
มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
และคนที่จะฝ่าฟันกับการบีบคั้นแห่งการรอคอย
กลับมาหาเราได้ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา…
เพราะฉะนั้น…
ย่อมหมายถึง…ความรู้สึกที่เค้ามีอยู่ก็คงไม่ได้ธรรมดา
และคนคนนั้นก็ย่อมเต็มค่า
เวลาที่ชาวประมงจะเลี้ยงหอยมุก จะต้องใช้เวลาเนิ่นนาน
และสามารถรอคอยได้อย่างไม่น่าเชื่อ 
เพราะเขารู้ว่า เมื่อไหร่ถึงเวลาที่มุกสามารถนำมาร้อยเป็นสร้อยได้ ย่อมเกิดค่ามหาศาล 
…ชีวิตจึงจำเป็นต้องรอคอยใครสักคนให้ได้
หากรู้ว่าเป็นใครสักคน …ที่มีค่าแก่การรอคอย…
- See more at: http://www.roojingpa.com/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81-%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97.html#sthash.peb6HKBK.dpuf

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ทีมชาติเอกวาดอร์ (Ecuador) พรีวิวทีมต้อนรับฟุตบอลโลก 2014

ทีมชาติเอกวาดอร์ (Ecuador) ฉายา : La Tri หรือ Tricolor
ผลงานรอบคัดเลือก
คว้าโควต้าการผ่านเล่นรอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติได้เป็นทีมสุดท้ายด้วยผลงาน ชนะ 7 เสมอ 4 แพ้ 5 มี 25 แต้ม เท่ากับ อุรุกวัย แต่ประตูได้เสียดีกว่าทำให้ไม่ต้องไปลุ้นในการเล่นรอบเพลย์ออฟหวุดหวิด

ประวัติศาสตร์  ไฮไลท์ฟุตบอลโลก2014 (World History)
1930 - 1938 ไม่ได้เข้าร่วม
1950 - ถอนตัว
1954 - 1958 ไม่ได้เข้าร่วม
1962 - 1998 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก
2002 - รอบแบ่งกลุ่ม
2006 - รอบ 16 ทีมสุดท้าย
2010 - ไม่ผ่านรอบคัดเลือก
2014 - เข้ารอบสุดท้ายอัตโนมัติ (ปัจจุบัน)

นักเตะที่น่าจับตามอง
อันโตนิโอ วาเลนเซีย (Antonio Valencia) สโมสร : แมนฯยูไนเต็ด (Manchester United)
- เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่ (Jefferson Montero) สโมสร : โมเรเลีย (Morelia)
- เฟลิเป้ ไคเซโด้ (Felipe Caicedo) สโมสร : โลโคโมทีฟ มอสโก (Lokomotiv Moscow)

ผู้จัดการทีม
- ไรนัลโด้ รูเอด้า (Reinaldo Rueda)

นักเตะดังในอดีต
- อกุสติน เดลกาโด้ (Agustín Delgado) 1994-2006 
- คาร์ลอส เตโนริโอ (Carlos Tenorio) 2001-2011
- คริสเตียน เบนิเตซ (Christian Benítez) 2005-2013