๑. โครงการป้องกันปัญหา
โครงการนี้จะต้องจัดทำอย่างจริงจังและถูกต้องเพื่อป้องกันปัญหาแบบยั่งยืนที่ชั้น อนุบาล และชั้น ป.๑ นั่นก็คือ
(๑) จัดกิจกรรมการเรียนการสอนระดับอนุบาลด้วยการเตรียมความพร้อมด้านทักษะภาษาก่อนขึ้น ป.๑ ดังนี้
-เปล่งคำและเปล่งเสียงพูดชัดเจนทุกเสียงอักขระในถ้อยคำต่างๆ ไม่น้อยกว่าระดับชั้นอนุบาลละ ๕,๐๐๐ คำ
(รวมทั้งเปล่งเสียงท่องบทอาขยาน ร้องเพลง
และพูดสื่อสารถามตอบได้ชัดเจนตามเสียงอักขระและเสียงคำควบกล้ำ, ฟังนิทาน
เรื่องเล่า และพูดถามตอบได้ชัดเจนตามเสียงอักขระและเสียงคำควบกล้ำ)
-เปล่งเสียงท่องพยัญชนะ ก - ฮ และสระทั้ง ๓๒ สระ ได้ถูกฐานเสียงจนเกิดทักษะจดจำได้
-มีพัฒนาการการจับดินสอ ปรับระยะสายตา เขียนเส้นลีลาต่างๆ และวาดรูปอย่างมีทักษะทิศทางเส้นสมบูรณ์ก่อนการเขียนตัวอักษร
-สามารถเขียนพยัญชนะ ก - ฮ สระทั้ง ๓๒ สระ วรรณยุกต์ทั้ง ๔ รูป และตัวเลข ๐-๙
ฝึกเตรียมทักษะด้านภาษาเพียงเท่านี้ให้ได้อย่างครบถ้วนแท้จริง
โดยไม่ต้องฝึกอ่านและเขียนคำ
เพราะขั้นตอนการฝึกอ่านและเขียนคำเป็นหน้าที่ของครู ป.๑
การเร่งฝึกอ่านเขียนก่อนวัยอันสมควร จะเป็นโทษแก่เด็กมากกว่าเป็นผลดี
ซ้ำยังทำให้ครูอนุบาลไม่มีเวลาฝึกเตรียมทักษะพื้นฐานข้างต้นให้สมบูรณ์เพียง
พออีกด้วย
(๒) จัดการเรียนการสอนภาษาไทย ป.๑ เพื่อการอ่านออกเขียนได้อย่างมีมาตรฐาน ดังนี้
-ครูจัดทำชาร์ตแบบฝึกอ่านเขียนที่ถูกต้องและมีมาตรฐานตามหนังสือ
เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แก้ง่ายนิดเดียว ของ ผศ.ศิวกานท์ ปทุมสูติ บทที่
๓-๖
-ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบบันไดทักษะ ๔ ขั้นวันละ ๒ ชั่วโมง
-นักเรียนมี “สมุดคัดลายมือ” ที่แสดงผลการเรียนต่อเนื่อง
-นักเรียนมี “สมุดเขียนตามคำบอก”
ที่แสดงผลการเรียนต่อเนื่องอย่างสอดคล้องกับสมุดคัดลายมือ
และแสดงผลการแก้ไขปรับปรุงอย่างมีพัฒนาการ
-ครูมีบัญชีแสดงการมาเรียนของนักเรียน
-เมื่อสอนครบเนื้อหาหลักสูตรได้มีการทดสอบ “เขียนตามคำบอก” ด้วยคำมาตรฐาน ๕๐ คำและแสดงหลักฐานได้อย่างเป็นระบบที่ง่ายต่อการตรวจสอบ
๒. โครงการเฉพาะกิจแก้ปัญหาเร่งด่วนที่ชั้น ป.๒ ขึ้นไป
เนื่องจากเด็กที่เลื่อนชั้นจาก ป.๑ มาอยู่ในชั้นเรียนต่างๆ
ขณะนี้จำนวนมากยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
จึงจำเป็นต้องจัดทำโครงการแก้ปัญหาเฉพาะกิจเร่งด่วน ดังนี้
(๑)
สำรวจสภาพปัญหาด้วยการให้เด็กชั้น ป.๒ ขึ้นไปเขียนตามคำบอกจากคำทดสอบ ๕๐ คำ
โดยที่คำทดสอบนี้มีมาตรฐานพื้นทักษะระดับชั้น ป.๑
ซึ่งมีค่าความยากง่ายเฉลี่ยองค์ประกอบของคำครอบคลุม
-คำที่มีพยัญชนะต้นอักษรสามหมู่
-คำที่สะกดตรงมาตราทั้ง ๙ แม่
-คำที่ประสมสระไม่น้อยกว่า ๒๐ สระขึ้นไป
-คำควบกล้ำและคำอักษรนำ
-คำผันเสียงวรรณยุกต์ทั้งสามหมู่อักษร
ชุดคำทดสอบ ๕๐ คำ มีให้เลือกในหนังสือ
เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แก้ง่ายนิดเดียว ของ ผศ.ศิวกานท์ ปทุมสูติ จำนวน ๒
ชุด
อาจออกคำทดสอบเพิ่มเติมจากหลักการมาตรฐานดังกล่าวได้อีกตามที่เห็นเหมาะสม
นักเรียนที่ได้คะแนนไม่ถึง ๒๕ คะแนนให้คัดจำแนกเด็กเป็นกลุ่มๆ เข้าสู่โครงการแก้ปัญหา
(๒) จำแนกเด็กเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละไม่เกิน ๒๐ คน
โดยพิจารณาให้เด็กเรียนช้าอยู่กับช้า เด็กเรียนเร็วอยู่กับเร็ว
รวมทั้งดูวัยให้ใกล้เคียงกัน
และดูคะแนนความสามารถที่ใกล้เคียงกันให้อยู่กลุ่มเดียวกันด้วย
(๓)
จัดให้มีครูอาสาเป็นผู้รับผิดชอบจัดการเรียนการสอนเพื่อการแก้ปัญหาเป็นการ
เฉพาะ ครูอาสาคนหนึ่งจะรับผิดชอบเด็กได้ไม่เกิน ๔ กลุ่ม หรือไม่เกิน ๘๐ คน
(๔) ครูอาสาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มละ ๑ ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้น
ถ้ามีเด็ก ๔ กลุ่มก็จะต้องสอนวันละ ๔ รอบ รอบละ ๑ กลุ่มต่อ ๑ ชั่วโมง
ดังนั้น ครูอาสาที่รับผิดชอบสอนวันละ ๔ กลุ่ม
ควรจะต้องว่างจากภารกิจอื่นอย่างสิ้นเชิง
เพื่อจะได้ทุ่มเทเวลาเพื่อกิจกรรมการสอนแก้ปัญหาอย่างแท้จริง
(๕)
ครูอาสาเขียนชาร์ตประกอบการสอนตามแบบฝึกในหนังสือ
เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แก้ง่ายนิดเดียว ของ ผศ.ศิวกานท์ ปทุมสูติ
ตั้งแต่บทที่ ๓ ถึงบทที่ ๖ และดำเนินการสอนไปตามลำดับเนื้อหาอย่างครบถ้วน
โดยใช้กิจกรรมการสอนแบบบันไดทักษะ ๔ ขั้นทุกชั่วโมง คือ
ขั้นที่หนึ่ง แจกลูก ให้ผูกจำ
ขั้นที่สอง อ่านคำ ย้ำวิถี
ขั้นที่สาม คัดลายมือ ซ้ำอีกที
ขั้นที่สี่ เขียนคำบอก ทุกชั่วโมง
(๖)
ครูอาสาดำเนินการสอนแก้ปัญหาไปจนครบถ้วนเนื้อหาเป็นเวลาไม่น้อยกว่ากลุ่มละ
๙๐ ชั่วโมง หรือไม่น้อยกว่า ๔ เดือน หรืออาจเกินกว่าเวลาที่กำหนดนี้ก็ได้
ทั้งนี้ให้ถือเอาความมีสัมฤทธิผลของทักษะของเด็กแต่ละกลุ่มและแต่ละคนเป็น
สำคัญ
(๗) เมื่อสอนครบตามเนื้อหาบทที่ ๓-๖ ให้ครูอาสานำคำทดสอบ ๕๐
คำใช้ครั้งแรกก่อนเข้าโครงการมาทดสอบให้เด็กเขียนตามคำบอกอีกครั้ง
เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการและผลสัมฤทธิ์ในการแก้ปัญหา (โดยทั่วไป
ถ้าครูอาสาดำเนินการอย่างครบถ้วนตามเนื้อหาแบบฝึก กระบวนการ
และขั้นตอนต่างๆ ดังที่กล่าวแล้ว โดยไม่มีปัญหาหรืออุปสรรคแทรกซ้อน จะได้ผล
๑๐๐%)
(๘) จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินโครงการเสนอหน่วยงานในสังกัดรับทราบ
*การบริหาร กำกับติดตาม นิเทศ และประเมินผล
ฝ่ายบริหารและฝ่ายวิชาการจะต้องเรียนรู้กระบวนการ ขั้นตอน วิธีการต่างๆ
จากหนังสือ เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แก้ง่ายนิดเดียว ของ ผศ.ศิวกานท์
ปทุมสูติ ให้เกิดความเข้าใจตรงกันกับครูอนุบาล ครู ป.๑ และครูอาสา
เพื่อวางแผนงานสนับสนุน ติดตามกำกับดูแล นิเทศ และช่วยเหลือ ดังนี้
๓.๑ จัดสรรงบประมาณสนับสนุนเพื่อการจัดซื้อกระดาษ และเครื่องเขียน เพื่อเขียนชาร์ตประกอบการสอนชุดละประมาณไม่น้อยกว่า ๒๐๐ แผ่น
๓.๒ บริหารบุคลากรและวิชาการให้เอื้อต่อกระบวนการแก้ปัญหา (มีรายละเอียดในหนังสือ)
๓.๓ ติดตามกำกับดูแล นิเทศ และช่วยเหลือ ให้การดำเนินการข้างต้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น